‘อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์’ จากเด็กบ้านนอกมองไม่เห็นโอกาส สู่หญิงแกร่งฉายา ‘มาดามพลังงาน’
“…การยืนด้วยตัวเองสวยที่สุด’ เพราะทุกคนรู้ว่าเราเป็นคนที่เคยยืนบนรองเท้าของคนอื่น และเป็นรองเท้าแก้วที่สวยงาม มีชีวิตที่สุขสบายเป็นเจ้าหญิงคนหนึ่ง แต่เรารู้สึกว่าเราอยากยืนด้วยเท้าเปล่าของตัว เพราะมันมั่นคง และยังยืนกว่า และเราสามารถส่งต่อพลังใจ ประสบการณ์ เคล็ดลับให้คนอื่นได้มีความสุขกว่าการที่เราต้องสวมรองเท้าของใคร”
นี่คือหนึ่งในบทสัมภาษณ์ของ “หมอกี้ – อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์” หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อหญิงแกร่ง “มาดามพลังงาน” ผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจพลังงาน เพราะเธอคือประธานกรรมการ บริษัท รีเจน สมาร์ท ซิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทป้องกันการระเบิดในอุตสาหกรรมพลังงาน รายได้มหาศาลหลายร้อยล้านบาทต่อปี แต่กว่าเธอจะเดินทางมาถึงจุดนี้ บอกเลยว่าแต่ละก้าวของเธอนั้นยากลำบาก และไม่เคยสบาย
วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” จะพาย้อนเล่าเรื่องราวเบื้องหลัง “มาดามพลังงาน” ซึ่งเธอกล่าวเสมอว่าต้นทุนชีวิตของตนเองนั้นอาจด้อยกว่าคนอื่น แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอมาได้ไกลจนประสบความสำเร็จดังเช่นทุกวันนี้ คือความกล้าและไม่กลัวที่จะแสวงหาโอกาสต่างๆ ที่เข้ามา มาดูกันว่าเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง จะน่าสนใจ และให้แง่คิดมากมายแค่ไหน ตามมาอ่านบนสัมภาษณ์กัน
- ที่มาถึงฉายา “มาดามพลังงาน” ผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจพลังงาน
“ฉายา ‘มาดามพลังงาน’ ได้มาจากการที่ตัวเองอยู่ในแวดวงตลาดอุตสาหกรรมพลังงานมานาน ต่อยอดตั้งแต่ตลาดUpstream รวมไปถึง Downstream รวมไปถึงเป็นคนที่มีพลังในการทำงานอยู่ตลอดเวลา ไม่ชอบหยุดนิ่งอยู่กับที่ เพราะว่าเวลาใครเจอก็จะเห็นเรามีพลังงานตลอด มักจะโดนถามตลอดว่า ‘เธอเคยหมดพลังงานบ้างมั้ย?’ ‘ทำไมดูแล้วมีเอเนอจี้ที่จะทำอะไรตลอดเวลาเลย’ ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่หลายๆ คนถามเสมอที่พบเจอ พร้อมทั้งมีการขอคำแนะนำในการสร้างพลัง และแพชชั่น ในการทำงานแบบนี้”
- เส้นทางชีวิตของผู้หญิงที่ชื่อว่า “กี้” กับเส้นทางชีวิตที่ไร้โอกาส
“ชีวิตเกิดมาด้วยต้นทุนที่ไม่เท่าคนอื่นคงต้องเรียกว่าเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งค่ะ เติบโตมาจากครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะอะไร หรือจะเรียกว่าลำบากเลยก็ได้ คุณพ่อเสียไปตั้งแต่กยังเล็กๆ คุณแม่จึงต้องทำหน้าที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว บวกกับสังคมที่เติบโตมา ทำให้โอกาสในการเรียน หรือสิ่งต่างๆ มีน้อยมาก ซึ่งเรามองถ้าเราได้รับโอกาสที่มากขึ้น ได้เติบโตในที่ที่เหมาะสม เราก็จะทำให้มันเต็มที่ แม้วันที่เรายังไม่ได้รับโอกาสเราก็เต็มที่ เราก็พยายามทำอย่างเต็มที่ที่สุด
ตอนนั้นเรามองโอกาสในการเรียนจะอยู่ในเมือง ซึ่งสมัยที่เราเด็กๆ นั้นค่อนข้างลำบาก ช่วงเรียนมัธยมที่บ้านก็ประกอบอาชีพทำไร่ ทำสวน ตัวเราเองก็ต้องเก็บมะลิ ร้อยมาลัย เพื่อนำรายได้ส่วนนี้มาใช้ในการเล่าเรียน บวกกับเราก็มีพี่น้องอีก การที่เราจะเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพเราก็เริ่มมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะตามมา และเราก็เลือกเรียนตามที่คุณแม่แนะนำ นั้นก็คือ “สัตวแพทย์” เพราะยอมรับเลยว่าตอนเด็กๆ เป็นคนที่คิดเองไม่เป็น คิดอะไรได้สั้น และหัวอ่อนมาก ก็เลยชื่อที่คุณแม่แนะนำ จนสุดท้ายเราเรียนด้วยทุนของ กยศ.”
- จุดเปลี่ยนพลิกผันสู่การเป็น “มาดามพลังงาน”
“ที่ใครๆ เรียกว่า ‘หมอกี้’ เพราะกี้เคยเป็นสัตวแพทย์มาก่อน ในช่วงที่เราเป็นสัตวแพทย์ ตอนที่เราทำงานเรารู้สึกถูกเติมเต็มในวิชาชีพมากแล้ว จนกระทั่งช่วงที่เรามีครอบครัวแต่งงาน และสามีเป็นชาวต่างชาติ ท่านก็ทำงานด้านพลังงานเช่นกัน ท่านได้ว่าเราไม่ค่อยได้ไปร่วมงานที่เกี่ยวกับด้านพลังงานบ้าง จึงชวนให้ไปงานด้วย ในจังหวะที่เราไปร่วมงาน เรารู้สึกว่าสายตาที่มองมา เป็นสายตาที่คิดแค่ว่าเราเป็นผู้หญิงที่มีแฟนเป็นต่างชาติ ทำให้เรามีความรู้สึกด้อยค่ามาก แม้เราจะจบเป็นถึงสัตวแพทย์ มีคลินิกเป็นของตัวเองแล้ว ความรู้สึกเราก็ยังไม่ถูกยกย่อง เรารู้สึกว่าความเป็นหญิงไทยในวันนั้นยังไม่ถูกเชิดชู เราก็ได้แต่เก็บมันไว้ และแอบคิดในใจแบบขำๆ ว่า ‘ในวันหนึ่งฉันต้องเป็นนักธุรกิจใหญ่เหมือนกับชาวต่างชาติทุกคนในตลาดพลังงานนี้ให้ได้’
ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเดินไปทางไหน หรือใช้เส้นทางไหนที่จะเดินไปถึงจุดนั้น แต่เรารู้แค่ว่ามันเป็นเป้าหมายที่เราจะต้องทำมันให้สำเร็จให้ได้ และเป็นแบบเขาให้ได้ เพราะถ้าหากพูดถึงเรื่องราวนี้ ก็ผ่านมานานกว่า 15 ปีแล้ว ในสมัยนั้นถ้าพูดถึงบทบาทของหญิงไทยที่มีสามีเป็นชาวต่างชาติ ความรู้สึกที่เราได้จากสังคมคือการที่ยังไม่ได้รับความสำคัญมากพอ และไม่ได้ต้องการให้เราแสดงออกในสิ่งที่เราคิด วันนั้นเราก็เป็นได้แค่ผู้ตาม เราไม่มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นใดๆ
“ส่วนการข้ามสายมาจับธุรกิจพลังงาน คงต้องบอกว่าเกิดจากดวงและโชคชะตาค่ะ เหตุเพราะด้านหลังโรงพยาบาลสัตว์ของกี้เป็นพื้นที่ทำอุตสาหกรรมประกอบแท่นขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งใครๆ ก็รู้ดีว่าเป็นธุรกิจที่ใหญ่โตและมั่งคั่ง ความโชคดีของกี้คือมีโอกาสได้เข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจนี้ เนื่องจากเป็นจังหวะที่เขากำลังสนใจสั่งซื้ออุปกรณ์สำหรับขุดเจาะน้ำมันยี่ห้อหนึ่งจากประเทศอังกฤษกันอยู่พอดี ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายในบ้านเรา กี้ก็เลยอาสาเป็นตัวแทนนำเข้ามาให้ ลงทุนเปิดบริษัทแบบจริงจัง โดยมีกี้เป็นพนักงานเพียงคนเดียว เริ่มต้นเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่ศูนย์ แม้กระทั่งเรื่องการเขียนอีเมล เรียกว่าไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้”
- เส้นทางสู่การเป็น “มาดามพลังงาน” ที่ (ไม่ได้) โรยด้วยกลีบกุหลาบ
“จริงๆ เป้าหมายที่เราตั้งไว้ในวันนั้นที่จะก้าวเขาสู่เส้นทางการเป็นนักธุรกิจด้านพลังงาน ในวัยตอนนั้นอายุเพียง 25 ปี ซึ่งมันยาก และการที่เขาจะยอมรับผู้หญิงไทยคนหนึ่งที่เข้ามาทำงานด้านปิโตรเลียมก็ยิ่งยากเข้าไปอีก แถมยังเรื่องภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร สายงานที่เราเรียนจบมาด้วย ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นอุปสรรคด่านใหญ่ที่เราต้องเจอ แต่เราก็พยายามมาในทุกๆ วัน วิเคราะห์ในสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเราที่จะสามารถนำมาปรับเปลี่ยนจุดแข็ง พร้อมนำอุปสรรคที่เราได้เจอมาสร้างเป็นจุดแข็ง และนำมาปรับเป็นคาแร็คเตอร์ของเราที่ไม่เหมือนใครในตลาด อย่างเช่น ทุกคนเป็นผู้ชาย เราใช้จุดแข็งที่เราเป็นผู้หญิง ทุกคนเป็นต่างชาติ เราก็ใช้จุดแข็งที่เราเป็นคนไทย
จริงๆ แล้วสิ่งที่เราพูดมันคือจุดอ่อน แต่เราพลิกมันมาเป็นจุดแข็ง และใช้เป็นพลังงานในการก้าวเข้าสู่เส้นทางนี้ บวกกับอุปสรรคที่เราเจอในแต่ละวัน เราก็ได้ฝึกฝนเพื่อเอาชนะ จนทำให้เราเติบโตมาเรื่อย ๆ เพราะการที่เราจะขายอุปกรณ์ชิ้นละเป็นล้าน โครงการหลักร้ายล้าน นอกจากจะต้องอาศัยใช้ความรู้ความสามารถแล้ว เราก็ต้องมีความน่าเชื่อถือทั้งตัวบริษัท และตัวเราเอง แต่สำหรับเราที่ยังไม่มีอะไรพร้อมเลย แต่เรามีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม เราเชื่อว่าแค่เราได้ทำเราก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว จนสุดท้ายเราก็ทำได้ และต่อยอดกลายเป็นอีกมากมายหลายโครงการ”
- การต่อยอดสู่โครงการ “Smart City” หรือ “เมืองอัจฉริยะ”
“จริงๆ โครงการ Smart City เป็นความฝัน และเป็นแรงบันดาลใจที่มันเกิดจากเราทำงานเกี่ยวกับด้านพลังงาน ซึ่งกว่าที่เราจะเติบโตมาถึงขนาดนี้ ก็ได้ผ่านการต่อยอดผ่านธุรกิจมากมายหลายอย่าง ผ่านพัฒนาความสามารถ องค์ความรู้ที่เรามี และเราได้ศึกษาต่อจนถึงวันนี้ รวมไปถึงประสบการณ์ที่เราสั่งสมมาเรื่อย ๆ จนเรารู้ถึงความต้องการของลูกค้า สิ่งที่เป็นประโยชน์ของลูกค้า เพราะฉนั้นการที่เราทำธุรกิจตั้งแต่ Oil and gas ต่อยอดมาที่ ปิโตรเคมี จนล่าสุดต่อยอดมาอีกสเต็ปหนึ่งคือ ‘ตลาดการก่อสร้างพื้นฐานประเทศ’ ทุกสเต็ปเรามีอุดมการณ์เดียวกัน คือ การนำองค์ความรู้ที่เราได้สะสมมา มาต่อยอดและขยายมาได้เรื่อย ๆ
ซึ่งเรื่อง Smart City ก็อย่างที่บอกเป็นการต่อยอดจากประสบการณ์ที่เราสั่งสมมาตั้งแต่วันแรก และนำมาประยุกต์ให้เรา ยุคและสมัยที่เปลี่ยนไป โดยใช้เทคโนโลยีที่เรามีมาบริหารเมืองให้ประชาชนได้ประโยชน์ และได้มีชีวิตที่ดีขึ้นจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ พูดง่ายๆ คือ Smart City เป็นการสร้างเมื่องที่น่าอยู่ ปลอดภัย มีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และการที่ประชาชนเข้าถึงการบริการของภาครัฐที่มากขึ้นกว่าเดิม
โดยการพัฒนาพื้นที่ Smart City ในประเทศไทย เป็นเพียงแค่ช่วงเริ่มต้น เป็นช่วงที่กำลังส่งเสริมและผลักดัน ซึ่งตอนนี้ก็มีเพียงแค่ไม่กี่จังหวัดที่เริ่มนำร่อง และผลักดันให้เกิดขึ้น ปัจจุบันนี้ก็มีเพียง 5 – 6 จังหวัดที่เริ่มแล้ว เช่น ระยอง ขอนแก่น นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ และมีอีก 2 – 3 จังหวัดที่เริ่มแล้ว โดยแต่ละจังหวัดก็จะยกเพียงแค่บางพื้นที่มาเป็นเมืองอัจฉริยะนำร่อง เพราะมันเป็นเรื่องใหม่มากๆ ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ยาก และคนทั้งบริษัทไม่เห็นด้วย แต่เราก็พัฒนามาเรื่อย ๆ ด้วยความหวัง และลุยทำมันอย่างเต็มที่ ด้วยการพัฒนาสินค้า ศึกษาความต้องการของแต่เมืองจนได้มาเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของแต่ละเมืองที่แตกต่างกัน”
- พลังงานขับเคลื่อนการเป็น “ผู้นำหญิง” ด้านพลังงาน
“หลังจากวันนั้น จุดเริ่มต้นที่เราถูกมองด้วยสายตาดูถูกตัวเรา จนวันนี้ที่เราก้าวขึ้นมาสู่นักธุรกิจหญิงด้านพลังงานระดับแถวหน้าแล้ว สิ่งที่อยากบอกว่าทุกคนสามารถสร้างมูลค่าให้กับตัวเอง เพียงแค่เราเจอสิ่งที่เรารัก การสร้างแพชชั่นเป็นสิ่งที่สำคัญ เราเป็นคนหนึ่งที่ฝึกสร้างแพชชั่นให้กับตัวเองมาตลอด เพราะทั้งชีวิตเราที่เติบโตมาเจอแต่อุปสรรคที่ถาโถมเข้ามาตลอด ในวันนี้ที่เรามายืนอยู่จุดนี้แล้วก็ยังคงมีอุปสรรคเข้ามาเรื่อย ๆ เพราะฉนั้นการที่เราจะดันตัวเอง และทำให้ตัวเองมีพลังงานอยู่ตลอดเวลา คือการประคองแพชชั่นตัวเองไม่ให้มันตกลงมา ตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มคิดอยากเป็นนักธุรกิจ จนถึงวันนี้ที่เราเป็นนักธุรกิจเต็มตัวแล้ว เราก็ยังคงสร้างแพชชั่นขึ้นมาเรื่อย ๆ ถึงที่เราต้องการทำต่อ และต่อยอดไปอีก
ดังนั้นในวันนี้เราก็ใช้แพชชั่นตัวใหม่นั้นก็คือ อุดมการณ์ในการสร้างสิ่งใหม่ที่ไม่มีคนทำมาก่อน อย่างการสร้างเมืองอัจฉริยะในอุดมคติให้มันเกิดขึ้นได้จริงๆ ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องสิ่งใหม่ๆ เราต้องแพ้ไม่ได้ เพราะเราต้องไปอีกไกลมากๆ เอาจริงๆ เราก็เปรียบตัวเองเหมือนนกอินทรีย์ เราจะโฟกัสที่เหยื่อ และจิกมันมาให้ Hit Target พอจับได้แล้วก็จะไปที่เป้าหมายต่อไปทันที มีความสุขกับการพิชิตเป้าหมาย
- คุณสมบัติ “ความเป็นผู้นำ”
“สำหรับผู้หญิงที่จะมีบทบาทางสังคม ส่วนตัวมองว่าบุคลิกภาพเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่พัฒนาได้ อย่างตัวเราเองตอนที่เข้าเมืองใหม่ๆ การแต่งตัว แต่งหน้า เอาเป็นว่าอยู่ในระดับที่เดินไปหลายคนหัวเราะเยาะเลย เป็นที่เคยแต่งตัว แต่งหน้าไม่เป็น แต่เราก็ใช้ประสบการณ์ การที่เราได้เรียนรู้ศึกษา นำมาพัฒนา และต่อยอดประยุกต์ใช้ความเป็นตัวเอง”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“อยากให้ทุกคนสู้ และมองแบบเรา เราเป็นคนหนึ่งที่เป็นเด็กบ้านนอก มีฐานะยากจน ไม่ได้มีโอกาสใดๆ เลย ทุกโอกาสที่เข้ามาจนถึงวันนี้มันมาจาก 2 ส่วน คือหนึ่งเรามองหาโอกาส และไขว่คว้ามันมาตลอด และสองการที่เราประคองพลัง และแรงบันดาลใจไม่ให้ตก เราโตขึ้นตลอด เราใช้กำลังใจที่มาจากตัวเองในการฮีลตัวเอง อยากให้ทุกคนเห็นว่าแม้จะเป็นเด็กบ้านนอก แต่วันนี้เราสามารถเติบโตมาจนถึงจุดนี้ ถ้าเราทำได้ทุกคนก็ต้องทำได้ ผู้หญิงทุกคนก็ทำได้ การยืนด้วยตัวเองสวยที่สุด เพราะทุกคนรู้ว่าเราเป็นคนที่เคยยืนบนรองเท้าของคนอื่น และเป็นรองเท้าแก้วที่สวยงาม มีชีวิตที่สุขสบายเป็นเจ้าหญิงคนหนึ่ง แต่เรารู้สึกว่าเราอยากยืนด้วยเท้าเปล่าของตัว มันมั่นคง และยังยืนกว่า และเราสามารถส่งต่อพลังใจ ประสบการณ์ เคล็ดลับให้คนอื่นได้มีความสุขกว่าการที่เราสวมรองเท้าแก้วของใคร
จนถึงวันนี้เราภูมิใจที่เรากล้าถอดรองเท้าแก้วออกมา แม้จะต้องใช้พลังด้วยตัวเองเกือบ 100% และแม้ว่าบางสิ่งที่เราทำจะไม่มีใครสนับสนุน ต้องออกมาเดินเท้าเปล่าด้วยตัวเอง เจออุปสรรคมากมาย ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะยากมากๆ แต่เราก็กล้าที่จะทำมัน และเรารูสึกดีใจที่มันกำลังจะเติบโต แม้มันจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่เริ่มผลิบาน แต่สิ่งนั้นมันก็ตอบโจทย์ความต้อง และให้ประโยชน์สูงสุดกับทุกคน” หมอกี้ กล่าวทิ้งท้าย..