บาเยิร์น มิวนิค ตุนความได้เปรียบพอสมควรหลังบุกชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนวันอังคารที่ผ่านมา

เปแอสเช มีข่าวดี คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หายเจ็บกลับมามีชื่อเป็นสำรอง โดยที่ ลิโอเนล เมสซี่ ลงตัวจริงร่วมกับ เนย์มาร์ ส่วน บาเยิร์น มิวนิค ใช้ จามาล มูเซียล่า ปั้นเกมร่วมกับ คิงสเล่ย์ โกมัน และ ลีรอย ซาเน่ 

บาเยิร์น เป็นฝ่ายได้ลุ้นก่อนตั้งแต่นาทีแรก เอริก มักซิม ชูโป-โมติง พาบอลลากตัดจากซ้ายเข้าในก่อนยิงหน้าเขตโทษ บอลถากเสาออกหลังไปนิดเดียว 

เกมของ เปแอสเช ยังไม่สามารถต่อบอลได้ถนัด โดยเป็น บาเยิร์น ครองบอลได้ดีกว่า และมีลุ้นอีกครั้งในนาที 27 ที่ต่อบอลกันเยี่ยม จามาล มูเซียล่า หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวากำลังจะได้ล่อเป้าแต่ เซร์คิโอ รามอส ตามมาสกัดหวุดหวิด 

นาที 31 บาเยิร์น มีลุ้นต่อเนื่อง คิงสเล่ย์ โกมัน เปิดบอลจากซ้ายให้ ชูโป-โมติง เทกตัวโหม่งไปติดหัว ดานีโล่ ออกหลัง 

โกมัน สร้างโอกาสได้อีกครั้งที่ลุยถึงสุดเส้นก่อนเปิดบอลเข้ากลาง เซร์คิโอ รามอส โหม่งสกัดเข้าทาง โยชัว คิมมิช ได้ซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษเข้ากรอบ แต่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ป้องกันเอาไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรก เสมอกัน 0-0 

ครึ่งหลังเริ่มได้ 8 นาที บาเยิร์น ที่ดีกว่าในครึ่งแรก ก็เป็นฝ่ายได้ประตูนำ 1-0 อัลฟอนโซ่ เดวิส ตัวสำรองที่ลงมาแทน ชูเอา กานเซโล่ เปิดบอลจากซ้ายเข้าเขตโทษฝั่งขวา คิงสเล่ย์ โกมัน ตั้งเท้าแปเน้นๆ บอลไม่ห่างตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า แต่กลับล้มตัวเซฟไม่อยู่ ปล่อยบอลเข้าประตูไป 

เปแอสเช อยู่เฉยไม่ได้ต้องตัดสินใจส่ง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ลงสนามแทน การ์ลอส โซเลร์ ในนาที 57 เช่นเดียวกับ ฟาเบียน รูอีซ ที่เล่นแทนเจ้าหนู วอร์เรน ซาอีร์-เอเมรี่

บาเยิร์น เกือบได้เพิ่มในนาที 62 คิงสเล่ย์ โกมัน เปิดบอลจากขวาเข้าเขตโทษให้ ชูโป-โมติง ได้เอี้ยวตัววอลเลย์ บอลเข้ากรอบแต่ไม่ผ่านมือ ดอนนารุมม่า

นาทีถัดมา บาเยิร์น น่าจะได้อีกครั้ง จามาล มูเซียล่า หาจังหวะเปิดบอลจากขวาให้ ชูโป-โมติง ตั้งเท้าแปเน้นๆ ดอนนารุมม่า ต้องซูเปอร์เซฟปลายนิ้วก่อนบอลไปชนคานออกหลังไป 

เปแอสเช ส่งบอลตุงตาข่ายได้ในนาที 74 ในจังหวะที่ เอ็มบั๊ปเป้ หลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงติดหน้า ยานน์ ซอมเมอร์ บอลเด้งเข้าทาง เนย์มาร์ ได้ซ้ำด้วยขวาติดบล็อก ก่อนได้บอลอีกทีแล้วโยกยิงด้วยซ้าย ซอมเมอร์ ล้มตัวเซฟได้ก่อนมี เอ็มบั๊ปเป้ ตามเก็บตกจ่อๆ เข้าไป ทว่าตำแหน่งของ เอ็มบั๊ปเป้ ล้ำหน้าจึงไม่ได้ประตูตีเสมอ

เจ้าถิ่นเฮเก้ออีกครั้งในนาที 83 นูโน่ เมนเดส หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนปาดบอลให้ เอ็มบั๊ปเป้ แปจ่อๆ ตุงตาข่าย ทว่าวีเออาร์จับว่า เมนเดส อยู่ในตำแหน่งตอนรับบอลจาก เนย์มาร์ ประตูตีเสมอของ เปแอสเช จึงยังไม่มา

เปแอสเช ไม่ถอดใจและลุยต่อเนื่อง นาที 84 มีโอกาสจะแจ้งอีกครั้ง นูโน่ เมนเดส เปิดบอลจากซ้ายให้ เมสซี่ ยิงเน้นๆ ในเขตโทษ บอลไปแฉลบผู้เล่น บาเยิร์น เปลี่ยนทางออกหลังนิดเดียว

ช่วงทดเจ็บ บาเยิร์น เหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ  เบนฌาแม็ง ปาวาร์ ได้เหลืองที่สองหลังเสียบฟาวล์ เมสซี่ ทำให้กลายเป็นใบแดงต้องออกจากสนาม จากนั้นจบเกมเป็น บาเยิร์น มิวนิค บุกชนะ เปแอสเช 1-0 ได้เปรียบพอสมคววรก่อนกลับไปเล่นในบ้านนัดสองวันพุธที่ 8 มีนาคม 

เปแอสเช : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า – อาชราฟ ฮาคิมี่, มาร์กินโญส, เซร์คิโอ รามอส, นูโน่ เมนเดส – วอร์เรน ซาอีร์-เอเมรี่, มาร์โก แวร์รัตติ, ดานีโล่ เปเรยร่า, การ์ลอส โซเลร์ – ลีโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์

บาเยิร์น มิวนิค : ยานน์ ซอมเมอร์ – เบนฌาแม็ง ปาวาร์, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, มัทไธส์ เดอ ลิกท์ – ชูเอา กานเซโล่, โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์ก้า, คิงสเล่ย์ โกมัน – ลีรอย ซาเน่, จามาล มูเซียล่า – เอริก มักซิม ชูโป-โมติง

{{val.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
แก้ไขเมื่อ {{val.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
Quote

{{v.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
แก้ไขเมื่อ {{v.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
Quote

0 && !val.replys” ng-click=”content.event.get_reply(val);”>
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

เคียซ่าไร้เงาซ้อมวืดเกมเยือนไลป์ซิกอีก วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567

เอฟเอตั้งข้อหาคูดุสอาจเจอโทษแบนเพิ่ม วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567

อาแจ็กซ์ชักลังเลหวั่นอันโตนี่ลืมฟอร์มเก่ง วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567

ลาลีกามีแผนนำเกม บาร์ซ่า-แอตมาดริด เตะไมอามี่ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567

ฟลิคไม่โอเคทัศนคติจับเดอย็องนั่งทั้งเกม วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567

ยูเว่เอาแน่เตรียมเจรจาซื้อขาดคอนไซเซา วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567